" ริดสีดวงทวาร"
ถ่ายแล้วเจ็บ...เจ็บแล้วไม่กล้าถ่าย
ถ่ายออกมาเป็นเลือด มีเม็ดผิดปกติออกมาเวลาถ่าย คุณเผชิญอาการเหล่านี้อยู่หรือไม่?
โรคริดสีดวงทวาร
โรคริดสีดวงทวารแบ่งตามความรุนแรงเป็น 4 ระยะ คือสีดวงทวาร โรคริดสีดวงทวารแบ่งตามความรุนแรงเป็น 4 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 -- มีอาการถ่ายเป็นเลือด (บางคนก็ไม่มีอาการนี้) แต่คลำที่ทวารหนักแล้วเจอก้อน แต่ไม่มีการยื่นออกมานอกขอบทวาร
ระยะที่ 2 -- ริดสีดวงยื่นออกมานอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระและเลื่อนกลับเข้าไปในทวารหนัก หลังถ่ายอุจจาระ
ระยะที่ 3 -- ริดสีดวงยื่นออกนอกขอบทวาร ขณะถ่ายอุจจาระ และหลังถ่ายอุจจาระต้องดันกลับเข้าไปในทวารหนัก
ระยะที่ 4 – ริดสีดวงทวารยื่นออกนอกทวารหนักตลอดเวลา
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นโรคริดสีดวงทวาร
โรคนี้ส่วนมากจะเกิดจากพฤติกรรมของเราเอง เช่น การทานอาหาร การดำรงชีวิต และการขับถ่าย ทุกคนๆมีโอกาสเป็นริดสีดวงทวาร แต่จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการดูแล้ตัวเอง และส่วนมากหลายๆคนจะเข้าใจกันว่า โรคริดสีดวงเกิดจากอาการท้องผูกสาเหตุเดียว ซึ่งจริงๆแล้วยังมีสาเหตุอื่นๆอีกที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารได้ สาเหตุอื่นๆเช่น
บุคคลที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ และต้องเบ่งถ่ายเป็นประจำ ซึ่งเป็นสาเหตุยอดนิยมสำหรับคนเป็นริดสีดวง และมากกว่าสาเหตุอื่น
ท้องเสียบ่อย ถ่ายบ่อย เนื่องจาก โรคบิดหรือโรคลำไส้ ทำให้ถ่ายอุจจาระบ่อย ๆ
ทานยาถ่ายหรือยาระบายเป็นประจำ หรือยาที่มีส่วนผสมของยาถ่ายยาระบาย เพราะฤทธิ์ของยาจะทำให้อุจจาระถูกผลักออกมาอย่างแรง ส่งผลให้เยื่อบุผนังลำไส้อักเสบ และหลอดเลือดโป่งพอง
ชอบอ่านหนังสือในห้องน้ำนานๆ ทำให้เส้นเลือดคล้อยต่ำลงเร็ว
การนั่งหรือยืนท่าใดท่าหนึ่งติดต่อกันนานๆ
การกลั้นอุจจาระ
ยกของหนักเป็นประจำ
การดื่มสุรามากเกินไป การรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อนจัดเกินไป ก็มีโอกาสทำให้เป็นโรคริดสีดวง
สตรีที่คลอดบุตรยากต้องออกแรงเบ่งในการออกลูก
อายุที่มากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อหย่อนยาน จนทำให้เบาะรองเลื่อนลงมาจนยื่นออกมาจากทวารหนัก
อาการของริดสีดวงทวาร
มีเลือดออกขณะถ่ายอุจจาระหรือหลังถ่ายอุจจาระ
มีติ่งหรือก้อนที่ทวารหนัก ซึ่งอาจจะอยู่นอกทวารหนักตลอดเวลาหรืออาจมีการออกมาตอนขับถ่ายและหดกลับเข้าไปเองได้หรืออาจต้องใช้มือช่วยดันกลับ
บางคนอาจมีอาการคัน ปวด เจ็บ บริเวณที่เป็นริดสีดวง
นอกจากนี้บางรายที่เลือดออกมากๆอาจมีอาการหน้ามืดเวียนศีรษะร่วมด้วย
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคริดสีดวง
นอกจากการทานยาเพื่อรักษาอาการริดสีดวงแล้ว ผู้ป่วยควรดูแลตัวเองด้วยเพื่อไม่ให้เกิดอาการเป็นๆหายๆ หรือกำเริบมากขึ้น
ดื่มน้ำมากขึ้นและให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มและขับถ่ายออกมาได้ง่าย
ไม่เบ่งถ่ายอุจจาระ ไม่กลั้นอุจจาระ
ไม่ทานยาระบาย หรือใช้ยาสวน โดยไม่มีความจำเป็น
กินผักผลไม้ และธัญพืชประเภทต่างๆชนิดที่มีกากใยสูง เพื่อช่วยให้อุจจาระนิ่มลงและป้องกันอาการท้องผูก
อย่าให้เกิดอาการท้องร่วง หรือท้องเสียบ่อย ๆ
ไม่ควรนั่งในห้องส้วมนาน ๆ ขณะอุจจาระ
หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
ถ้ามีหัวริดสีดวงอยู่ภายนอกไม่ควรเดินนานๆ เพราะอาจทำให้เกิดการเสียดสีและจะทำให้เกิดอาการอักเสบมากยิ่งขึ้น
ปรึกษาอาการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
https://www.facebook.com/PhuluangHerbs/